เครื่องซักผ้าหยุดซักกลางคัน

ทีมช่างทางศุนย์เครื่องใช้ไฟฟ้า สกลอิเล็ค(konservice) ของเราพบว่า สาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้คือ
1.  Lid Switch Assembly
หากเครื่องซักผ้าหยุดซักกลางคัน อาจจะเกิดจาก Lid Switch มีปัญหา ซึ่งพบเจอได้ทั่วไป ซึ่งจะต้องทำการ Test  switch ดังกล่าวซะก่อน ด้วย Ohm meter
2. ชุดกลไกล็อคประตู ส่วนใหญ่เป็นเครื่อง Font Load
กรณีนี้อาจเกิดจากกระแสไฟฟ้า ไม่เลี้ยงผ่านชุดกลไกตัวนี้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นลักษณคล้ายสะพานไฟ ซึ่งต้อง Test ด้วย ohm meter
3. Inlet Valve หรือ วาล์วน้ำเข้า
วาล์วน้ำเข้าอาจจะมีปัญหา คือ ไม่สามารถจ่ายน้ำไปยังระบบได้
4. Main Control Board
ตัวแผงบอร์ดทำงานขัดข้อง หรือ ไหม้ หรือช๊อต  ซึ่งกรณีเป็นไปได้หลังจากที่เช็คอย่างอื่นแล้วว่า ไม่ใช่สาเหตุ
5.Timer
ตัว Timer เสีย กรณีนี้ต้องเปลี่ยนอะไหล่

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และรับชมค่ะ หรือแจ้งซ่อมที่ศุนย์ของเราได้ที่ Fanpage ได้เลยค่ะ

  

ซ่อมเครื่องซักผ้า การซ่อมและเปลี่ยน Timer เครื่องซักผ้า

หากคุณจะอยากซ่อมเครื่องซักผ้าด้วยตัวเองสักครั้ง บทความนี้จะเป็นการแนะแนววิธีการทำครับ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือเฉพาะทาง นั่นคือ วิธีการซ่อมตัวจัดการเวลาหรือการซ่อมTimer

 

Timer คือ ตัวสั่งการเครื่องซักผ้าว่าเราจะซักผ้านานกี่ชั่วโมง กี่นาที มีหลายลักษณะ หลายหลาก

 

Step 1 – ไฟฟ้า

        อย่างแรกคือปิด switch ไฟทุกอย่าง ให้แน่ใจว่า ไม่โดนไฟดูดแน่ๆ

Step2 - ลูกบิด timer

       เอาตัวบิดหรือลูกบิดออก ง่ายๆครับ ดึงมันออกด้วยมือครับ ไม่ถึงกับต้องใช้คีมงัดมันออก มันเป็นพลาสติก ระวังแตกหักด้วยนะครับ

Step3 - แผงคอนโทรล

        แผงคอนโทรลด้านหน้าจะมีน๊อตยึดไว้ ให้ถอดมันออกครับเราจะเอาหน้ากากออกและทำการเปลี่ยนหรือทำการซ่อม timer

Step4 - ถอด timer

   หลังจากที่เปิดแผงคอนโทรลออก เราก็จะถอดสาย Disconnect ต่างๆที่ยึดตัว timer ไว้ แล้วทำการสไลด์ตัว timer แล้วดึงออกจากแผงคอนโทรลได้เลยครับ

Step5 - ใส่ timer

        เมื่อซื้ออะไหล่(ตรงรุ่น) มาเปลี่ยนจากผู้ผลิตแล้ว เราก็จะประกอบกลับเข้าที่เดิม แล้วเสียบสาย Connect ให้ครบตามที่เราถอดมา

Step6 - ประกอบร่าง

        เมื่อทำครบตามขั้นตอนแล้วให้ประกอบหน้ากาก ยึดน๊อต ให้เรียบร้อย แล้วทำการทดสอบ หากใช้ได้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

เห็นไหมครับ ง่ายๆแค่นี้ คุณเองก็เป็นช่างได้

ซ่อมเครื่องซักผ้า กรณีเปลี่ยนยางขอบประตูเครื่องซักผ้าฝาหน้า

เคยไหมครับ ใช้เครื่องซักผ้าอยู่ดีๆแล้วน้ำมันไหลนองพื้น พอไปตรวจสอบดูก็พบว่าขอบยางประตูมันเปื่อย หรือ ฉีกขาด ใช่แล้วครับ บางเคสนี่ถึงกับปิดประตูเครื่องซักผ้าไม่ได้ก็มี เนื่องจากขอบยางประตูเครื่องซักผ้าของเราเสื่อมสภาพ

สำหรับบทความนี้ผมก็จะนำเสนอ วิธีการเปลี่ยนขอบยางประตูเครื่องซักผ้าฝาหน้าเรามาเริ่มทีละขั้นตอนนะครับ

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1. หกเหลี่ยม

2. ไขควง

3. ความเสี่ยง และ ความพร้อม อย่าเพิ่งกลัวครับ ทุกอย่างไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ย่อมมีความเสี่ยง

หมายเหตุ จุดหลักอยู่ที่ลวดที่ใช้ยึดยางขอบประตู ดูเผินๆ มีอันเดียว แต่จริงๆมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (แล้วแต่รุ่นด้วยครับ ต้องสังเกตุดีๆ)

ขั้นตอน 1 ทำการถอดส่วนด้านบนก่อน

ขั้นตอน 2 ดึงลิ้นชักใส่ผงซักฟอก ระวังเขี้ยวยึดของเครื่องซักผ้าเราด้วยนะครับ มันจะหักเอา

ขั้นตอน 3 ขันน็อตแผงคอนโทรล และ ฝาด้านล่างออก

ขั้นตอน 4 หาไขควงแบนๆงัดเข้าหาตัว แล้วดึงลวดยึดยางขอบประตูเครื่องซักผ้าออก แล้วแกะยางขอบประตูให้หลวมๆแล้วผลักไปกองด้านหลัง

ขั้นตอน 5 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขันน็อตออกหมดแล้ว จานั้นดึงฝาเหล็กด้านหน้าออก แนะนำให้ยกขึ้นแล้วดึงเข้าหาตัว

ขั้นตอน 6 ขอบยางประตูเครื่องซักผ้า จะยังคงถูกยึดด้วยคลิปล็อค ให้แกะออกอย่างระมัดระวัง แล้วงัดลวดยึดขอบยางด้านหลังออก

ขั้นตอนที่ 7 ดึงออกได้เลยครับ แล้วใส่ยางที่เราซื้อจากผู้ผลิตมา

ขั้นตอนที่ 8 ใส่เข้าไปตามเดิมครับ แล้วยึดน็อตประกอบ แล้วทดสอบเครื่องซักผ้า ดูว่า ปิดประตูได้พอดีไหม เครื่องซักผ้ามีอาการรั่วซึมของน้ำหรือเปล่าถ้าไม่มีก็ถือว่าผ่านครับ

น็อตยึด หรือ ตำแหน่ง อาจไม่ตรงกัน ตามคลิปวีดีโอนี้นะครับ ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละรายแต่หลักการโดยรวมแล้วเหมือนกันครับ ผมช่างสกลโดย konservice ก็ขอลาไปก่อน หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ แนะนำบอกต่อกันได้ หรือมีปัญหายังไงโทรปรึกษาผมได้ ที่เบอร์ 086-814-8819 ครับ

บริการซ่อมเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

ผงซักฟอก ยี่ห้อไหนก็เหมือนกัน?

เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่สะอาดสดใส มีสีสรรที่สดสวย ไม่ซีดจางกลีบ รีดเรียบมีกลิ่นหอม มีส่วนช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ให้สะดุดตาแก่ ผู้พบเห็นดังนั้นการดูแลเอาใจใส่ด้วยการทำความสะอาดที่ถูกวิธีของผู้เป็นเจ้าของอาภรณ์ที่งดงามนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ผงซักฟอกเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นในการช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากเนื้อผ้า เราจึงควรมาทำความรู้จักผงซักฟอกกันดีกว่า 

ผงซักฟอก (Synthetic Detergent) คือ สารประกอบทางอินทรีย์เคมีที่สังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ในการทำความสะอาดประเภทหนึ่ง มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกจากเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เครื่องจักร เครื่องมือ และอื่น ๆ 

วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตผงซักฟอก ประกอบด้วย

          1. สารลดแรงตึงผิว เพื่อลดแรงตึงผิวของน้ำ เป็นสารที่ทำให้เกิดฟอง ทำให้ผ้าเปียกง่าย ช่วยละลายไขมันและความสกปรก ได้แก่สาร Linear Alkene Benzene Sulfonate (LABS) สามารถย่อยสลายได้ด้วยบักเตรีในธรรมชาติ ทำให้เกิดผลเสียต่อธรรมชาติได้น้อย เป็นสารที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

          2. สารลดความกระด้างของน้ำ ทำให้น้ำมีสภาพเป็นด่าง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระความสกปรก และช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกย้อนกลับมายังเสื้อผ้า ได้แก่ สาร Zeolite ,สาร Sodium TripolyPhosphate (STPP) ผงซักฟอกที่ใช้สารนี้เป็น ส่วนผสมจะสลายตัวได้ยากในธรรมชาติ จะทำให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม  

          3. สารป้องกันการตกตะกอน ได้แก่ Sodium carboxy methyl Cellulose
          4. สารกันสนิม เป็นสารที่ช่วยไม่ให้ภาชนะโลหะที่ใช้ซักผ้าถูกกัดกร่อน ได้แก่ Sodium Silicate
          5. สารเพิ่มความสดใส เช่น ผงซักฟอกนวล หรือ Fluorescense เป็นสาร ชนิดหนึ่งที่จะตกค้างอยู่บนเส้นใยผ้าหลังการซัก และเมื่อผ้าถูกแสงแดดสารนี้จะสะท้อนแสงออกมาเรือง ๆ ทำให้ผ้าดูขาวขึ้นผลิตภัณฑ์ผงซักฟอกที่มีคุณสมบัติเฉพาะที่ทำให้ดูเหมือนมีความแตกต่างหลากหลายให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อในตลาดนั้น

ปัจจุบันสามารถแบ่งเป็น 2 สูตร คือ
          1. สูตรธรรมดา (Premium) เป็นผงซักฟอกชนิดผงและชนิดน้ำ ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคโดยทั่วไป
          2. สูตรเข้มข้น (Concentrete) เป็นผงซักฟอกชนิดผงและชนิดน้ำที่มีปริมาณสารซักฟอกในปริมาณมากกว่าสูตรธรรมดาและเพิ่มสารเพิ่มแรงซัก(Bleaching Enyzme) ลงไปด้วย ทำให้ผู้บริโภคใช้ในปริมาณที่น้อยลงและลดเวลาในการซักฟอก เหมาะสำหรับเสื้อผ้าที่มีคราบสกปรกฝังแน่น ปัจจุบันได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเนื่องจากประหยัดเวลา อย่างไรก็ตาม


หากเราจะแบ่งผงซักฟอกออกตามประเภทของการใช้แล้ว สามารถจำแนกเป็น 2 ประเภท คือ 

          1. ผงซักฟอกสำหรับซักด้วยมือ มีจำหน่ายทั้งสูตรธรรมดาและสูตรเข้มข้น มีทั้งชนิดผงและชนิดน้ำโดยสูตรธรรมดาจะมีปริมาณฟองมากและใช้เวลาแช่ผ้านานราคาจำหน่ายจะถูกกว่าสูตรเข้มข้น ด้วยเหตุผลทางการตลาดผู้ผลิตบางรายได้ผลิต ผงซักฟอกสำหรับใช้ร่วมกันได้ทั้งซักด้วยมือและซักด้วยเครื่องซักผ้า 

          2. ผงซักฟอกสำหรับใช้กับเครื่องซักผ้า มีจำหน่ายทั้งสูตรธรรมดาและสูตรเข้มข้น มีทั้งชนิดผงและชนิดน้ำสำหรับใช้กับเครื่องซักผ้าทั้ง 2 แบบ คือ แบบที่ใช้สำหรับเครื่องที่ฝาอยู่ด้านหน้า และแบบที่ใช้สำหรับเครื่องซักผ้าที่ฝาอยู่ด้านบน ราคาจำหน่ายจะแตกต่างกัน โดยผงซักฟอกที่ใช้สำหรับเครื่องที่ฝาอยู่ด้านหน้าจะมีราคาแพงกว่า เนื่องจากเครื่องซักผ้าชนิดนี้ต้องใช้ผงซักฟอกที่มีปริมาณฟองน้อยเพื่อไม่ให้ฟองล้นออกมาทางด้านหน้าของเครื่อง
การคุ้มครองผู้บริโภค ในส่วนที่เกี่ยวกับกระทรวงพาณิชย์

          1. สำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
              ได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดชนิดสินค้าหีบห่อที่ต้องบรรจุสินค้าตามปริมาณที่กำหนด พ.ศ. 2543 รวม 8 ขนาด คือ 100 200 300 700 750 1500 2500 3000 กรัม โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาและสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

          2. สำนักจัดระบบราคาและปริมาณสินค้า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
             ซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคด้านราคาสินค้าและให้สินค้ามีปริมาณเพียงพอกับความต้องการนั้น ผงซักฟอกเป็น 1 ใน รายการสินค้า 235 รายการ ที่ต้องปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีก ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่อง การแสดงราคาสินค้าและค่าบริการโดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
       

หลักในการเลือกซื้อที่เป็นข้อพิจารณาโดยสรุปคือผงซักฟอกทุกตราจะสามารถใช้ทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากวัตถุดิบหลักซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำความสะอาดจะเหมือนกันหมดสามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าได้สะอาดเหมือนกัน ดังนั้นเสื้อผ้าที่สะอาด สดใส มีสีสรรที่ สดสวยทนนานคงต้องขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของผู้เป็นเจ้าของร่วมด้วย เช่น แยกประเภท แยกสีของเสื้อผ้าก่อนซัก ไม่ควรแช่ผ้าทิ้งไว้นานกว่าที่กำหนดในฉลากวิธีใช้ข้างกล่อง ไม่ใส่ผงซักฟอกมากกว่าปริมาณที่กำหนด หรือตากเสื้อผ้ากลางแจ้งที่มี แดดจัด ซึ่งจะทำให้เสื้อผ้าเหลืองง่าย หรือถ้าเป็นผ้าสีก็จะจางเร็ว ควรตากในที่ร่มที่มี ลมพัดผ่านในกรณีที่ผู้บริโภคต้องการความเป็นพิเศษนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ขั้น พื้นฐานของการทำความสะอาดเสื้อผ้า และยอมที่จะเสียเงินเพิ่มเพื่อความพิเศษนั้น ก็เป็นดุลยพินิจและความต้องการของแต่ละบุคคล ข้อสำคัญอย่าลืมตรวจสอบราคาและ เปรียบเทียบกับปริมาตรบรรจุของแต่ละตราในขนาดเดียวกัน เพียงเท่านี้คุณก็จะเป็น ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำได้ไม่ยากเลย

ที่มา : 1. รายงานผลการศึกษาค้นคว้า เรื่อง แนวโน้มและอัตราการเจริญเติบโต
                ของตลาดผงซักฟอก โดยนางสาวสุวรรณฑา จุลไกรอนิสงส์
            2. ประกาศกระทรวงพาณิชย์ ออกตามความน พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542
            3. สำนักจัดระบบราคาและปริมาณสินค้า

เรียบเรียงโดย: สุรางค์ กิตติกาญจนรักษ์

ข์้อมูลจากเว็บ www.dit.go.th

มาดู เทคโนโลยีเครื่องซักผ้า ของ LG กันครับ ว่าไปไกลขนาดไหน?

 เริ่มตั้งแต่ยุด ของสายพาน ลูกรอก

- ลูกรอก ตัวถัง สายพาน มอเตอร์ เทคโนโลยีนี้มีข้อเสียอยู่หลายอย่าง ตั้งแต่ เสียงที่ดัง มีแรงสั่นสะเทือน ความสมดุลของตัวถังที่ไม่ยังเสถียร การระบายความร้อน

 ปี 2001

LG แปลงโฉมด้วยการใส่มอเตอร์แบบ DDT (ไม่ใช่ DDT ที่เป็นสารพิษฆ่าแมลงนะครับ) ย่อมาจาก "Direct Drive Technology" ซึ่ง lg บอกว่า เสียงดังจากเครื่องซักผ้าน้อยลง มีความสมดุลขึ้น และ เพิ่มความทนทานด้วยตัวถังแบใหม่

 ปี 2005

LG Stream Innovation อันดับ 1 แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ด้านประสิทธิภาพเครื่องซักผ้า ด้วยระบบ Dual Spray

 ปี 2009

LG เปิดตัว 11kg  เพิ่มขนาดตัวถังให้กว้างขึ้น 30% ทำให้จุเสื้อผ้าได้เยอะขึ้น ระบบการหมุนที่ทำออกมาได้ดียิ่งขึ้น รองรับการกระแทรกและสั่นสะเทือน การกระจายตัวของเสื้อผ้าที่สมดุลขึ้น มีระบบ sensor ตรวจจับหากตัวถังไม่ balance

เทคโนโลยีเครื่องซักผ้า ยังไม่หมดอยู่แค่นี้ ไว้โอกาสหน้า konservice จะพาไปดูเทคโนโลยีแบบอื่นกันครับ

อาการเครื่องซักผ้าไม่ปั่นแห้งแต่ซักปกติ

บทความนี้เป็นเรื่องของถังปั่นแห้งไม่ทำงาน คือ ไม่หมุนผ้าให้หมาด นั่นเองครับ ส่วนเรื่องของการซักก็ยังคงใช้งานได้ปกติซึ่งผมแบ่งเป็น 2 กรณี

สาเหตุเป็นไปได้ว่าถ้าเป็นเครื่องซักผ้าฝาบน ให้สังเกตุดูว่า ฝาประตูของเครื่องซักผ้าของท่าน ปิดสนิทดีหรือไม่? ถ้าปิดไม่สนิท เครื่องจะแสดงสัญลักษณ์ คำว่า “dE” บางรุ่นใช้สวิตช์ประตู - บางรุ่นใช้ระบบ censor ที่ติดอยู่กับฝาประตู ควบคุม แต่ถ้ามั่นใจว่าคุณได้ปิดฝาเครื่องซักผ้าดีแล้ว และไม่ขึ้นคำว่า “dE” อาจเป็นไปได้ว่าระบบ censor หรือ สวิตช์ประตูน่าจะมีปัญหา อย่างนี้ต้องเรียกช่างซ่อมเครื่องซักผ้ามาตรวจเช็คอาการเพิ่มเติมครับ             

แต่ถ้าเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าไม่ปั่นแห้ง ให้สังเกตุดูว่าพอถึงโปรแกรมถ่ายน้ำทิ้งน้ำไหลออกจากเครื่องหรือเปล่า? ถ้าน้ำไม่ไหลออกน่าจะเกิดปัญหามาจาก ”มอเตอร์เดรน (Motor Drain)” น่าจะเสียครับ 

แต่ถ้าเครื่องซักผ้าน้ำไม่ไหลทิ้ง แล้วเงียบ ไม่ได้ยินเสียงมอเตอร์เดรนทำงาน สาเหตุน่าจะเกิดจากแผงคอนโทรล(Control system) น่าจะมีปัญหานะครับ แต่อันนี้ต้องเช็คไฟว่ามาเลี้ยงมอเตอร์เดรนหรือเปล่า ก็ต้องให้ช่างซ่อมเครื่องซักผ้าเป็นคนเช็คดูครับ เพราะอาการมันลึกลงไปทางด้านเทคนิคครับ

สำหรับบทความนี้ก็คงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยครับ ติดตามหรือติดต่อสอบถามผมได้ทางเว็บ facebook หรือจะโทรโดยตรงก็ได้ครับ

เสียงดังจากเครื่องซักผ้า

เครื่องซักผ้าดัง เป็นปัญหาระดับต้นเหมือนกันเท่าที่เคยพบมา เนื่องจากอายุการใช้งานย่อมมีความสึกหรอ บูทฝืดเป็นสนิม เวลาปั่นหมาดเสื้อผ้าเสียงจะดังมากเป็นพิเศษ อีกกรณีครับ คือเครื่องซักผ้าแบบ 2 ฝาตรง ที่ปั่นหมาดวางผ้าไม่สม่ำเสมอ เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ

ปัญหาเครื่องซักผ้าดัง อาการนี้เจอบ่อยครับ โดยมาก จะเสียอยู่ 2 ตัวครับ คือ

1. มอเตอร์เครื่องซักผ้า

รูปภาพ แสดงตัวอย่างมอเตอร์เครื่องซักผ้าแบบเก่า

รูปภาพ แสดงตัวอย่างมอเตอร์เครื่องซักผ้าแบบใหม่

2. แกนซักเครื่องซักผ้า 

รูปภาพ แกนซักเครื่องซักผ้า

โดยมากจะเป็นที่ลูกปืนมอเตอร์ ถ้าเป็นแกนซักบางรุ่นอาจจะซ่อมได้ เหมาะสำหรับผู้มีงบประมาณน้อย

แต่ถ้าจะให้ดีเปลี่ยนทั้งแกนดีกว่าครับ ผมว่าจะคุ้มกว่ากันนะ 

สายพานก็เคยเจอนะครับ ความจริงมันไม่ขาดหรอกครับ แต่ว่า สายพานมันเสื่อมสภาพไปแล้ว ดูไงว่าเสื่อมสภาพ คือ มันไม่ตึงครับ  มีรอยฉีกขาด เคยเจอถึงขนาดแตกออกมาเป็นท่อนๆเลยนะ นี่ก็คือสาเหตุอีกประการที่ทำให้ เครื่องซักผ้า ของเราดังได้

เครื่องซักผ้าน้ำไหลทิ้งตลอดเวลา ทำไงดี

บทความนี้ก็ว่าด้วยเรื่องของ เครื่องซักผ้า ฝาบนกันครับ

ข้อดีคือ สะดวกสบายมาก เปิดฝา เทผ้าที่ต้องการซัก ใส่ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม และตั้งโปรแกรมการซักง่ายๆแค่นี้เอง ซึ่งได้รับความนิยมตามหอพัก หรือ อพาร์เมนต์

ข้อเสียคือ เปลืองไฟและน้ำมากกว่าแบบ 2 ฝา

อาการเสีย ของเครื่องซักผ้าฝาบน มีหลายอาการครับ สำหรับบทความนี้ผมยกตัวอย่างเรื่อง

- ไฟไม่เข้า

- น้ำไม่เข้าเครื่อง

- น้ำไม่ไหลออก

- น้ำไหลทิ้งตลอด

- เครื่องเสียงดัง

- เครื่องซักแต่ไม่ปั่นแห้ง

- อื่นๆอีกหลายอาการครับ บรรยายไม่หมด ฯลฯ

กรณีอาการน้ำไหลทิ้งตลอดเวลา
อาการนี้เจอบ่อยครับ สาเหตุก็มาจาก ช่องทางเดินท่อน้ำทิ้ง

- มีเหรียญบาท

- กิฟหนีบผม

- เข็มกลัด

- โครงเหล็กเสื้อใน

ไปกีดขวางวาวล์น้ำทิ้ง วาวล์น้ำจึงปิดไม่สนิท เพระฉะนั้นก่อนใส่เสื้อผ้าลงถัง ให้ตรวจสอบดูว่า มีเหรียญอยู่ในกระเป๋าเสื้อ, กางเกงหรือเปล่า ควรเอาออกให้หมดนะครับ จะได้ไม่เสียเงินให้กับเครื่องซักผ้า เพราะเท่าที่ผมเจอมา เหรียญจะเป็นร้อยแล้วครับ สำหรับบทความนี้ก็คงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย แล้วมาพบกันกับบทความต่อ

ง่ายๆกับการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า

ประเด็นของวันนี้คือ เรื่องของการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่มีมากมาย ให้คุณเลือก บางท่านก็คิดว่า เอ....แล้วเราควรจะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าแบบไหนดี วันนี้ konservice จะมาแนะนำกัน มีเครื่องซักผ้าแบบไหนบ้างไปดูกัน

จุดประสงค์ของการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า
- ความถี่ในการใช้งานต่อสัปดาห์
- ปริมาณของเสื้อผ้าที่เราจะซัก
- ประเภทของเสื้อผ้า
- งบประมาณของคุณ

วัสดุที่ผู้ผลิตเครื่องซักผ้า นิยมใช้กัน

- พลาสติก,ไฟเบอร์ม, โพลิเมอร์

        ข้อดีราคาถูก น้ำหนักเบา

        ข้อเสีย พังง่าย เนื่องจกเป็นพลาสติก

- เหล็กกันสนิม, แสตนเลส

        ข้อดีแข็งแรง ทนทาน

        ข้อเสีย เคลื่อนย้ายลำบาก น้ำหนักเยอะ ผุกร่อน(เท่าที่ผ่านมามันกันไม่ได้ 100% ซึ่งอาจมีหลายปัจจัยด้วยกัน)

ประเภทของเครื่องซํกผ้า

       

- เครื่องซักผ้าฝาบนสองถัง (กึ่งอัตโนมัติ)เหมาะ สำหรับการซักในครั้งน้อย ๆ        ข้อดี คือ สามารถซักได้หลายครั้งโดยไม่เปลี่ยนน้ำ มีราคาถูก ส่วนข้อเสีย คือ ต้องคอยย้ายผ้าไปมาระหว่างถังซักและถังปั่นหมาด

- เครื่องซักผ้าฝาบนหนึ่งถัง (อัตโนมัติ)มี ราคาปานกลางถึงสูง เหมาะสำหรับคนที่พอมีงบประมาณสูงหน่อย เนื่องจากมีโปรแกรมการซักให้เลือกใช้งาน โดยที่เราไม่ต้องคอยย้ายผ้าไปมาระหว่างถังซักและถังปั่นหมาด เครื่องซักผ้าจะปั่นหมาดในตัว

- เครื่องซักผ้าฝาหน้า เหมาะสำหรับคนในครอบครัว เครื่องซักถนอมเนื้อผ้า รวมทั้งสามารถจุผ้าในการซักแต่ละครั้งได้มาก จึงเหมาะกับครอบครัวใหญ่ คุณสมบัติพิเศษคือสามารถซักผ้าได้สะอาดใกล้เคียงกับการซักมือมากที่สุด อีกทั้งยังใช้พลังงานในการซักน้อยกว่าเครื่องซักผ้าฝาบนด้วย ส่วนข้อเสียคือ มีราคาสูง เมื่อเทียบกับแบบอื่น

บริการหลังการขาย

สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ก็คือ เรื่องของการรับประกันหลังการขาย สิ่งนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องปวดหัวกับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่ตามมาในอนาคต การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภทย่อมเสื่อมไปตามกาลเวลา ฉะนั้น คุณควรเลือก ให้เหมาะกับตัวของคุณ งบประมาณ คุณลักษณะของเครื่องซักผ้า พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน เพื่อความสะอาด ทนทาน และคุ้มค่า หวังว่า บทความนี้คงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการมองหาเครื่องซักผ้าไว้ใช้งานสักเครื่องนะครับ